วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

สิ้นสุดตลาดหมี

วันนี้ว่างๆ เลยมานั่งเขียน อีเลียตเวฟหน่อย  ระหว่างนี้ตลาดกำลังตกหนักเลยที่เดียวครับ -30 จุด
อีเลียตเวฟเป็นศาสตรหนึ่งที่ใช้พยากรณ์ความเป็นไปของหุ้นแบบคร่าวๆเป็นแนวโน้มที่จะเป็นไป
ซึ่งคราวที่แล้วได้ทดลองใช้ดู  ผลเป็นอย่างไร ดูกันเอาเองนะครับ


รูปคลื่นอีเลียตเวฟที่เขียนไว้วันที่ 8 ธันวาคม 2555

รูปนี้เป็นรูป set วันที่ 30 กันยายน 2556 และวาดอีเลียตเวฟในวันเดียวกัน

ผมมองว่าตลาดหมีใกล้จะจบลงแล้ว  และจะเริ่มตลากกระทิงใหม่  รอบนี้ไฉไลกว่าเดิม set จะทำนิวไฮใหม่  ในจุดที่ทุกคนเชื่อว่าเซ็ทจะขึ้นได้อีกไกล  และจะทิ้งตัวลงมาอีกครั้งเมื่อแมลงเมามาประชุมกันที่กองไฟเกือบครบทุกตัว   แลจะเริ่มวัฏจักรของมันใหม่ต่อไปเรื่อยๆ

วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556

EXCEL TRADE TFEX FUTURE

ตัวนี้เป็นโปรแกรมล่าสุดเลยครับ  สำหรับเทรดฟิวเจอร์   ซึ่งพัฒนามาจากโปรแกรมเทรดหุ้น   และใส่รายการบัณทึกการซื้อขายสัญญาและกำไรขาดทุนใว้ในตัว  ซึ่งง่ายมากสำหรับการเทรด   แต่คงต้องรอให้มีทุนถึง ห้าแสนบาทก่อนนะครับไม่งั้นความเสี่ยงจะเยอะมาก   สำหรับการเทรดของโปรแกรมนี้นะครับควรเทรดที่ ล้านละไม่เกินสิบสัญญาน่าจะนานอยู่นะครับ  กว่าจะได้ลองของใหม่


โปรแกรมนี้จะขึ้นอยู่กับค่า RSI  เพียงอย่างเดียว  โดยจะสั่งให้ซื้อ S หรือ L  จำนวนสัญญาตามค่า RSI  จะไม่มีความกลัว  และ ความโลภมาเกี่ยวข้อง

EXCEL เทรดหุ้นตามราคาและค่า RSI

โปรแกรมนี้เป็นตัวต้นแบบเลยละครับ  สำหรับการเทรดหุ้นที่ใช้เทคนิค ไม่มีอารมมาเกี่ยวข้อง  เพื่อป้องกันความเสียหายกับพอร์ทในสภาวการณ์ต่างๆ   เพราะผมใจไม่แข็งพอเลยต้องคิดสร้างตัวช่วยเพื่อความงอกงามของกำไร



ใช้สูตรง่ายๆเอาครับ   ใครๆก็เขียนได้    ผมอยากจะลองใช้จริงๆซักที  แต่ติดที่  ติดดอยอยู่ครับ  รอให้หลุดดอยเมื่อใหร่เจอกัน  โปรแกรมเทรด   อยากรู้นักว่าจะทำกำไรได้เดือนละกี่ เปอร์เซนต์  555+
ไม่ต้อง งง นะครับ  C48  คือเงินที่มีในพอร์ทนั่นเองครับ

EXCEL คำนวนการคืนภาษีเงินได้ จากการปันผลหุ้น

เนื่องจากเอ็มินมีรายได้ไม้ถึง หมื่นห้า จึงไม่เสีภาษีครับ  จึงต้องขอคืนภาษีสักหน่อย


เงินพันหกร้อย  ไม่ใช่น้อนๆนะครับ   ลองเอาไปเขียน EXCEL เองก็ได้นะครับ ไม่ยาก  หากสงสัยก็สอบถามได้นะครับสำหรับโปรแกรม

เงียบหายไปนาน ไม่มีอะไรก็แค่ติดดอย


พอร์ท ติดลบไป 33.91 %  สรุปกำไรที่ทำมาทั้งปี  หายวับไปพร้อมทุน   ด้วยจิตใจที่ไม่เข็มแข็งพอ   สองสามหมื่นไม่กล้าคัท  สุดท้ายพอร์ทติดลบเป็นแสน  จะเป็นลม

หลังจากที่นั่งเซ็งๆมาหลายเดือน  เลยคิดทำ  โปรแกรมเทรดหุ้น   ขึ้นมา  เอาใว้แก้ปัญหา  ความโลภ  ความกลัว ในตลาดเวลาเทรด  เพื่อไม่ให้เกิดการลังเลใดๆ  จึงจัดการสร้าต้นแบบเทรดด้วย เอ็กเซลล์ขึ้นมาครับ

แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ทดลองใช้เพราะว่ายังติดลบอยู่   คาดว่าเมื่อหลุดดอยแล้วจะนำโปรแกรมนี้มาใช้เทรดจริงๆ       ว่าแล้วก็เอารูปมาโชวน์กันหน่อย


เป็นการผสมผสานระหว่างโปรแกรมเทรดหุ้น  กับ โปรแกรมบัณทึกการซื้อขายหุ้น  

โดยโปรแกรมจะคำนวน ราคา เงินในพอร์ท  และค่า RSI เพื่อบอกเราว่าตอนนี้ควรมีหุ้นอยู่ในพอร์ทเท่าไร  ควรซื้อเข้า  หรือขายหุ้นออกเท่าไร  ควรจะมีเงินประกันพอร์กี่บาท  ซึ่งยอดจะเปลี่ยนไปทุกครั้งที่เราเทรดได้กำไร  หรือขาดทุน   การทำงานเหมือนขั้นบันได  ขึ้นทีระขั้นก็ขายทีละก้อน  ลงทีละขั้นก็ซื้อทีละก้อน  ตามจำนวนขั้นที่ตั้งใว้เลยครับ  ซึ่งการนำ RSI มาจับนั้นจะทำให้การมีหุ้นเต็มพอร์ทนั้นยากมาก และการขายหมดพอร์ทนั้นก็ยากเหมือนกัน  สรุปได้กำไรเล็กน้อยแต่ได้ตลอดครับ  กินคำเล็กๆเรื่อยๆ
ข้อดีของโปรแกรมนี้คือ  ถ้าใช้กับหุ้นที่มีการสวิงของราคาอยู่มาก  ก็จะทำกำไรได้ตลอดครับ

ส่วนโปรแกรมบันทึกหุ้นก็ยังคงเดิมอยู่ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรเพิ่มขึ้นเลยครับ


วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

ในความสวยงามของตลาดหุ้นที่แฝงใว้ด้วยความโหดร้าย


บางคนอาจจะเห็นว่าตลาดหุ้นสวยงาม สามารถเข้ามาหาเงินได้ง่าย  แต่    ในความสวยงามนั้นมัความเสี่ยงสูงมากที่จะลงทุน  ดังหุ้น GEN  ที่มีความร้อนแรง คือขึ้นมาจาก 2 สตางค์ ไปอยู่ที่ 1.8 บาท หรือเรียกได้ว่าเป็นหุ้น 9 เด้ง  หรือ 900 %  ใน 5 เดือน

แต่ก็สามารถสร้าความเสียหายให้กับพอร์ทได้  ถึง 50 %  ภายในระยะเวลาเพียว 2 อาทิตย์เท่านั้น
ซึ่งคร่าชีวิตเมลงเม่าไปนับไม่ถ้วน     สำหรับมือใหม่จงพึงระวังใว้ให้ดีนะครับ

ขาดทุน คัทลอส   แต่ถ้ากำไร  ก็ปล่อยให้กำไรเยอะขึ้นไปเรื่อยๆ  และถ้าขาดทุนกำไร  หรือเรียกว่ากำไรลดลงเมื่อใหร่  ให้รีบขายเอากำไรไปนอนอกอด ก่อนที่กำไรเหล่านั้นจะจากไปนะครับ

เดย์เทรด เอาค่ากับข้าว



วันนี้เห็นหุ้นหลายตัววิ่งดีเหลือเกิน เลยอดเดย์เทรดหาค่ากับข้าวมื้อเย็นไม่ได้
วันนี้เข้าออกเล่นๆได้ไป 7436 บาท  มื้อนี้อิ่มเลยละครับ

ส่วนอีกตัวที่เห็นขายออกไปแล้วขาดทุนนั้น  เป็นหุ้นที่วิเคราะห์ผิดพลาดครับ  คือซื้อแล้วมันไม่ยอมขึ้น
เห็นว่าจะเสียการ เลยต้องขายออกไปเพื่อหาตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะช่วยเสริมให้พอร์ทบวกขึ้นได้อีก  

วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556

เปิดบ้านแอ็ดมิน



แอ็ดมินเป็นคนที่ติดดินครับ  กินอยู่อย่างเรียบง่าย   ตอนสมัยที่แอ็ดมินเรียนจบใหม่ๆ  ทำงานเดือนแรก
ได้เืดือนละ 8000 บาท  พอเงินเดือนออก อยากได้อะไรก็ซื้อครับ  ไปผ่อนคอมพิวเตอร์  ราคา  26000  บาท  1 เครื่องซึ่งสเป็คตอนนั้นถือได้ว่าแรงสุดๆเลยทีเดียว  คือเพ็นเทียม 4 นั่นเอง   ผ่อยอยู่หลายเดือนกว่าจะหลุดระหว่างผ่อน  จึงรู้ว่า  เราควรจะต้องรู้จักบริหารเงินให้เป็น  หลังจากทำงานได้ 7 เดือน  จึงเก็บเงินได้บ้าง    จึงคิดหาวิธีการที่จะมีรายได้สูงขึ้น  

 ถ้าทำงานเป็นลูกจ้างเงินเดือนก็จะขึ้นแค่ ปีละ  500 - 1000 เท่านั้น  จึงเปลี่ยนงานใหม่   มาทำงานที่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์  โดยทำงานเป็นลูกจ้างของรัฐ ได้เงินเดือน 7340 บาท  แล้วก็เรียนต่อ ปริญญาโท  โดยใช้เงินเดือนของตัวเอง และก็ยืมเงินพี่สาวมาเสริมอีก  หลังจากนั้น 2 ปีก็ได้จบปริญญาโทสมใจ  พร้อมกับหนี้สินอีก  100000  บาท  จากการยืมเงินพี่สาวมาเรียน    จึงทำงาน ใช้หนี้  ระหว่างนั้นก็คิดอีกนั่นแหละครับว่าจะทำอย่างไรถึงจะรวย  ก็เกิดความคิดที่จะสร้าง  วงดนตรีจ้างลูกน้องคุม   ตั้งร้านค้ารับจ๊อบล้างแอร์  ช่วงเสาร์อาทิตย์  แต่ก็ไม่เห็นวี่แววว่าจะรวยได้อย่างไร หยุดเมื่อใหร่ก็ไม่ได้ตัง   ขายตรงก็เคยสมัครมาแล้วครับ  แต่พอเห็นวิธีการทำงานแล้วผมก็ไม่ปลื้ม  เพราะเหมือนไปตื้อตามติดขายของแพงๆเดี๊ยวจะเป็นที่น่ารังเกียจของเพื่อนๆเอาได้  ผมเลยเลิกทำ

 ส่วนเรื่องหางานใหม่ที่ได้เงินมากกว่านี้นั้น  ผมเลิกคิดไปแล้วครับ  ถึงจะมีเงินเดือนเพิ่มขึ้น เราก็เก็บเงินเพิ่มได้อีกไม่มาก  และเมื่ออายุ 60  เราก็ต้องออกจากงานจึงคิดว่าจะทำอะไรจึงจะทำให้เรามีกินมีใช้ตลอด

จึงคิดใหม่อีกว่าคนรวยเค้าทำอะไรกันถึงรวย  ก็ได้คำตอบว่าเค้าใช้เงินทำงาน ใช้เงินลงทุนและนำผลกำไรมาทบกันไปเรื่อยๆ     อย่างนี้นี่เอง    แล้วเราจะทำอะไรดีล่ะ    ช่วงนั้นเห็นน้องช่ายคุยให้ฟังว่าเค้าเล่นหุ้นโดย  ถ้าผลประกอบการของบริษัทที่เราถืออยู่ออกมาดีก็อาจได้ปันผล บากกับราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นอาจจะได้ถึง 10 เปอร์เซนต์ต่อปีเลย  เมื่อผมได้ยินดังนั้น  ผมจึงหาข้อมูลเพิ่ม  จนพบว่า  มันมีโอกาสที่จะทำกำไรได้จริงโดยที่เราไม่ต้องเหนื่อย  และ เงินมันก็ยังคงทำงานให้เราจนวันตาย และชั่วลูกชั่วหลานเลยเชียว  แหม  ทำไมเราไม่รู้จักตลาดหุ้นให้เร็วกว่านี้นะ  ผมจึงเปิดบัญชีหุ้น  และใส่เงินเริ่มแรกเข้าไป 30000 บาท  เทรด 3 วันได้กำไร 900 บาท โอ้ทำไมเงินหาง่ายอย่างนี้  หลังจากนั้นก็ใส่เงินเพิ่มเข้าไปอีก เป็น 90000 บาท   8 เดือนผ่านไป   เหลือเงิน  ไม่ถึง สองหมื่นบาท  ขาดทุนไป 80 %  หลังจากนั้นจึงได้ทำการคิดวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน ประกอบกันศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม  วางแผนการเทรดอย่างเป็นระบบจนในที่สุดกำไรก็กลับมา  แต่เงินทุนมันน้อยไปเสียแล้ว  สำหรับการทวงทุนที่หายไปคืนมา   ผมจึง  กู้เงินมาอีก 100000  บาทโดย  ผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเดือนละ 2700 บาท  ซึ่งตอนนี้เงินเดือนผมแค่  8340 บาท  และผมเล่นแชร์อีกเดือนละ 4000 บาท  ค่าเช่าห้องอีกเดือนละ 1400 บาท  ยังไม่รวมค่ากินอยู่ ค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์   ส่วนค่าไฟแต่ละเดือนใช้ไม่เกิน 50 หน่วย  ฟรีตลอดอยู่แล้ว
รวมเบ็ดเสร็จเดือนหนึ่งจ่ายเป็นหมื่น   ผมอยู่ได้อย่างไร  เพราะผมคำนวนตัวเลขและวางแผนการใช้จ่าย  รายรับและรายได้  อย่างดีแล้วครับ   แชร์ผมได้ดอกเดือนละ 2000 ถ้าน้อยกว่าพันผมเปีย  ยังไงก็กำไร
เฉพาะดอกแชร์ก็เกือบส่งทั้งต้นและดอกที่กู้มาได้แล้ว   และยังมีผลกำไรจากหุ้นอีกเดือนละ  ประมาณ หนึ่งหมื่นบาท  และเพิ่มขึ้นทุกเดือน  จนเดือนมีนาคม  ผมได้กำไรจากหุ้น  38773  บาท

แผนการลงทุนยังคงดำเนินต่อไป  ชีวิตก็ยังคงดำเนินต่อไป  อนาคตอันสดใสรอเราอยู่ข้างหน้า
ถึงหนทางจะยังอีกยาวใกล  แต่ก็ไม่ใกลเกินกว่าใจเราจะไปถึง



รูปนี้เป็นรูปเครื่องคอมเพ็นเที่ยม 4 ที่แอ็ดมินซื้อนั่นแหละครับ  แต่ซื้อจอใหม่ 2 จอเพี่อการเล่นดนตรี  แต่ตอนนี้เลิกรับงานไปแล้วครับ  เลยเอามาเทรดหุ้นแทน  เวลาส่วนมากในการวิเคราะห์หุ้นจะเป็นช่วงหลังเลิกงาน ถึง เที่ยงคืนทุกวัน   และช่วงเวลาเทรดของแอ็ดมิก็จะมีแค่วันละ 30 นาทีหลังเที่ยงวัน  นอกจากบางวันจะว่างจริงๆถึงได้เทรด ส่วนคำสั่งซื้อขาย  ส่วนมากจะตั้งใว้ล่วงหน้า  จากการวิเคาระห์  หรือขายหลังเที่ยง   ส่วนในเวลางาน  แอ็ดมินแทบไม่ได้เปิดโทรศัพยท์เช็คราคาหุ้นเลย


ปลาเป็นย่อมว่ายทวนน้ำเสมอ  ชีวีตมีอยู่ก็ต้องสู้ต่อไปครับ  

  ความฝันมีใว้ให้ไปถึง  มิใช่มีใว้เพียงฝันเพื่อง            แล้วติดตามอ่านใหม่นะครับ

วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556

ลมเปลี่ยนทิศ เลยเปลี่ยนใจขาย


ถึงจะไม่ได้ขายในราคาที่แพงที่สุด  แต่ก็ยังขายได้กำไรดีอยู่ครับ สำหรับ BTC  ผมขายไปในราคา 1.82
เอากำไรใว้ก่อนครับ  เห็นโวลุ่มซื้อเริ่มน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ  ทำให้เปอร์เซนต์กำไรในเดือนนี้พุ่งสูงขึ้นเป็น  19.21 %  สูงสุดเป็นประวัติการ   ถึงกระนั้น  เดือนนี้มันยังไม่สิ้นสุด  อะไรก็เกิดขึ้นได้

แล้วมาติดตามกันต่อนะครับ

วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556

LET PROFIT RUN ให้หุ้นที่มีกำไรทำงาน


ปล่อยให้หุ้นที่มีกำไรทำงาน   ดีกว่าปล่อยให้หุ้นที่ขาดทุนทำงานนะครับ
 ตัวใหนแดงคัท  เขียวปล่อยใว้ลองดูกันนะครับว่าอะไรจะทำเงินให้เรามากกว่ากันระหว่าง

1.  แดงซื้อเขียวขาย  เอากำไรใว้ก่อน  แต่ได้กำไรน้อย แต่บ่อย

2.  แดงขาย เขียวๆเก็บใว้  เมื่อใหร่มันเปลี่ยนใจหัวทิ่มเราค่อยขาย

จากที่ทำการซื้อๆขายๆ  ได้กำไรต่อเดือนตามรูปเลยครับ   คือไม่ถึง 6 %  ซักเดือน




ได้ผลจริงๆครับ   อย่างนี้คงไม่ต้องเหนื่อยเทรดบ่อยๆแล้ว    ทุกทีเมื่อมีกำไรปุ๊บ  แล้วเห็นว่ากำไรกำลังลด ในวันนั้นผมก็แทขายหมดแล้ว  เอากำไรใว้ก่อน

แต่นั่นมันไม่ดีเลย  เมื่อผมกลับมาดูหุ้นที่เคยเทรดเมื่่อก่อน  มันขึ้นมามากกว่า 100 %  แต่เปอร์เซนต์ที่ผมทำได้นั้นแค่  5 %  ต่อเดือน    

มาดูกันสักสองสามเดือนนะครับว่า พอร์ทจะโตได้ซักกี่เปอร์เซนต์

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วันนี้ขายหมูได้ทั้งวัน



วันนี้ขาย  PF ที่ราคา 1.84 ตลาดปิด 1.89    ตั้งขาย  UNIQ   6.95  ตลาดปิด  7.20   หมูหกหมดเลย
UNIQ  วันเดียวขึ้น 6 เปอร์เซนต์  เพิ่งรับมาตอนก่อนเที่ยงแท้ๆ  
รับมาด้วยความมั่นใจทีเดียว  ครึ่งพอร์ท   แต่ดันขายหมูไป

ทำให้ผลประกอบการเดือนนี้จาก 7000 บาท  วันเดียวพุ่งขึ้นไปอยู่ที่  11000 บาท    ถ้าใจเย็นๆรอหมูอ้วนรวยกว่านี้อีก

ตอนนี้จากการศึกษางบการเงิน ดูโวลุ่ม  ดูดลาด  ดูกร๊าฟ  ทำให้เข้าซื้อได้แม่นยำขึ้น

แต่ยังแก้ปันหาขายหมูออกไปไม่ได้   คงต้องหาทางแก้ปัญหากันไป

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เห็นพอร์ทสีเขียวสดใสแล้วมันสดชื่นหัวใจ


วันนี้เขียวทุกตัว    แต่มันน่าเสียดาย  ไม่น่าขายหมู  DSGT  ไปเลย  ขาย 10.50 ตลาดปิด 10.90 ขาดทุนกำไรอีกแล้วครับพี่น้อง    

ตัวที่หนักพอร์ทที่สุดก็คือ  BJC  ครับ  ซื้อไว้ที่ยอดดอยเยอะที่สุดแต่ให้ผลกำไรน้อยสุด 0.06 %   ส่วน GRAMMY  มีน้อยสุดแต่ให้ผลกำไรเยอะสุดเลย

ตั้งแต่วางแผนอย่างเป็นระบบตอนนี้ทำกำไรได้ดีขึ้น  หาจังหวะในการเข้าซื้อเริ่มจะดีแล้ว  แต่จังหวะเวลาการขายนี่นะสิ  ยังไม่ดีเลย  ขายหมูตลอดๆ  เช่นแกรมมี่ขายไปนานแล้วครับ  เหลือไว้ดูเล่นแค่ 100 หุ้นเอง  หุหุ

เดือนที่แล้วได้กำไรไป 8200  เดือนนี้เพิ่งได้แค่  7100 เอง  ยังทำกำไรไม่ชนะเงินเดือนซักที
แต่ก็ยังคงทำงานต่อไปครับด้วยความสบายใจเพราะใช้เวลามาดูหุ้นแค่วันลชั่วโมงสองชั่วโมงก็สามารถทำกำไรได้แล้ว

แต่กว่าจะได้ขนาดนี้นะครับเสียค่าเล่าเรียน (ศึกษาเอง)ไปเจ็ดหมื่นกว่าบาทครับ  ยังไม่ได้คืนเลย

ปล.    ว่างๆจะมาเล่าวิธีการหากำไรแบบง่ายๆให้ฟังซึ่งผมศึกษาเองอาจจะไม่ดีที่สุดแต่ก็ดีที่สุดสำหรับผมครับ  เพราะว่าทำกำไรให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556

เผลอแป๊บเดียว ชนลิ่งซะงั้น


เผลอแป็บเดียว  น้อง TGPRO  วิ่งซะชนลิ่งเลย  พอร์ทผมตั้งแต่เปิดมายังไม่เคยได้กำไรเป็นเปอร์เซนต์มากขนาดนี้เลยครับ  เห็นแล้วมันคันมืออยากขาย  แต่ต้องรอให้ราคาร่วงก่อนสักนิดพอเป็นสัญญาณว่าควรขายถึงจะขายครับ  กลัวหมูหก

วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

CEN มาแล้วตามเป้า

รับมาใว้ในอ้อม อก อ้อม ใจ เรียบร้อยแล้วครับสำหรับหุ้น CEN   รอกันต่อไปนะครับว่าจะมีแรงวิ่งไปได้ถึงเท่าไร  สำหรับผมเป้าหมายแรกที่ 6 บาท   แต่ก็เหมือนเดิมครับเก็บมาลุ้นเล่นเพียงเล็กน้อย
เดือนที่แล้วขาย Max ได้กำไรไป ห้าพันกว่าบาท  เดือนนี้ขอ Cen ซักหมื่นก็แล้วกันนะครับ